แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เทคนิควิเคราะห์หุ้น แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เทคนิควิเคราะห์หุ้น แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

มุมมอง หุ้น ทอง น้ำมันและภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2016

จากที่เราสำเรวจภาพรวมในปี 2016 เราคิดว่าตลาดอาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่มากมายนัก

เศรษฐกิจ การเงินในทางพื้นฐาน: ดีขึ้นเล็กน้อย




ในทางพื้นฐาน เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างช้าๆ  เทรนของเงินฝืดทั่วโลกจะเริ่มลดลง การเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2015 จะเริ่มส่งผลในประเทศต่างๆในปี 2016



การเติบโตของบริษัทต่างๆจะเริ่มดีขึ้น และเงินฝืดจะเริ่มลดลงจะทำให้ บริษัทต่างๆจะทำกำไรประมาณ 3-5% ในอเมริกา และจะมากกว่านี้ใน Japan และ Europe เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนมาก

สำหรับอัตราดอกเบี้ย เราคาดว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเกิน 1% จนถึงปลายปี 2016 และน่าจะขึ้นอีกเพียงเล็กน้อยในระยะยาว ซึ่งจากประวัติศาสตร์แล้วตัวเลขนี้ไม่น่าจะส่งผลให้เกิดภาวะ recession

หุ้นในอเมริกาค่อนข้างราคาสูงในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับระดับที่เหมาะสมอย่างในจีน ยุโรปและญี่ปุ่น

เราเชื่อว่า โอกาสที่ดีในการซื้อหุ้นอเมริกาน่าจะเกิดจากการปรับฐาน หรือการเติบโตของบริษัทต่างๆกลับมามากกว่า 5%  ความจริงตัวเลขนี้ก็ไม่ได้มากมายนัก เมื่อเทียบกับ Dollar ที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับสกุลเงินอื่น

ในปี 2016  ส่วนที่สำคัญที่สุดคือค่าเงิน Dollar และ ราคาตลาดหุ้นอเมริกาเมื่อเทียบกับปัจจุบัน  โอกาสซื้อที่สำคัญคือการปรับตัวลงของ Dollar index และการปรับฐานของหุ้นอเมริกา (ดอลล์อ่อน กำไรบริษัทดีขึ้น แะหุ้นที่ปรับฐานราคาดีจะเป็นโอกาส)


ในส่วนของยุโรปและเอเชีย


การอ่อนค่าของค่าเงินในประเทศเหล่านี้ จะทำให้การส่งออกดีขึ้น แต่การเติบโตยังคงเป็นไปอย่างช้าๆ โอกาสในการซื้อหุ้นยังคงต้องเลือกด้วยความระมัดระวัง ปัจจุบันมูลค่า ราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม บริษัที่พื้นฐานดีดูน่าสนใจในการลงทุน

แต่ถ้า Dollar เริ่มปรับตัวลง กำไรในบริษัทต่างๆในอเมริกาจะเพิ่มขึ้น และในยุโรปและเอเชียจะเริ่มลดลง

เมื่อตลาด Commodities สร้างจุดต่ำสุด เราคาดว่าน่าจะประมาณครึ่งปีหลังของปี 2016 ประเทศที่ส่งออก Commodities อย่างพวก Canada และ Australia จะเริ่มน่าดึงดูดในการลงทุน

น้ำมัน ทอง และ Commodities

ความสัมพันธ์ที่ตรงข้ามกับ US Dollar เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่ Dollar หยุดขึ้น Commodities จะวิ่งขึ้น  สองสิ่งสำคัญที่จะส่งผลต่อราคา Commodities ในปี 2016 คือ Dollar และ เงินเฟ้อ

เราไม่คิดว่าจะมีความต้องการ(demand) เพิ่มขึ้นมากในปี 2016 ดังนั้นทองและน้ำมันจะน่าสนใจจากเงินเฟ้อที่เกิดในประเทศที่พัฒนาแล้ว  เราเชื่อว่าเงินเฟ้อจะขึ้นอย่างช้าๆ รวมถึงดอกเบี้ยด้วย
สรุป  ถ้า Dollar ยังขึ้นต่อไป หรือยังไม่กลับตัว เราคิดว่าทองและน้ำมันจะ sideway หรือน่าดึงดูดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น






ดังนั้นจนกว่า Dollar จะกลับตัว หรือ Commdities price จะเจอ bottom จริงๆ ยังอยากให้เล่นทองด้วยความระมัดระวัง หลังจากเล่นขึ้นรอบนี้แล้ว เรายังมีโอกาสที่อาจจะยังเห็น Low ในทองอีก ในช่วงปี 2016

ที่มา: Guild investment
Boyles Bigmove Club

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เล่น Future อย่าเล่น Spread นะครับ เป็นบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2010


*** เล่น Future อย่าเล่น Spread นะครับ เป็นบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2010 ล่ะครับ ผ่านไปกี่ปี ก็ยังมีคนหมดตัวกับ spread ตลอด ฝากไว้สำหรับมือใหม่ในตลาด Future นะครับ ***

เสน่ห์ของ Future คือ Magic of Compound นะครับ แต่คนส่วนมากไม่สามารถอยู่ได้ถึงการเรียนรู้ในช่วงที่สามารถทำกำไรมหาศาลของตลาด Future ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน และหนึ่งในนั้นคือ Spread ด้วยเช่นกันครับ

เล่น TFEX อย่าเล่น Spread นะครับ Share ประสบการณ์

พอดีวันนี้ ว่างนิดๆ ก็คิดถึงเรื่อง spread ที่ลุงโฉลกเตือนเอาไว้ ก็เลยอยากจะมา Share idea เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ้งผมก็เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เช่นกัน และก็เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณลุงได้เตือนเอาไว้เช่นกัน

Spread นี่ที่เห็นเขาพูดๆกัน ก็เห็นมีหลายอย่าง(ถ้าผิดขออภัย) นับตั้งแต่การหาสินค้าที่วิ่งตามกันในตลาดอย่างเช่นตลาดเกษตรล่วงหน้าที่ประเทศไทย Afet เทียบกับตลาดเกษตรที่ญี่ปุ่น Tocom เพราะถ้า 2 ตลาดนี้วิ่งไปในแนวโน้มตรงข้ามกัน ท้ายที่สุดมันจะปรับเข้าหากัน แต่ผมว่าเหมาะแก่การนำไปวิเคราะห์รวมกันมากกว่าการเล่น Spread

หรือ การดูผลต่างระหว่าง 2 สัญญาใน Future แล้วทำกำไรจากการบีบตัว หรือทิ้งห่างกันของสัญญาที่ใกล้เคียงกัน

หรือใช้ในการ fix ขาดทุน เพื่อบรรเทาการขาดทุนเมื่อเรามองผิดทาง

ผมขอ Share ประสบการณ์ผมล่ะกัน ผมเล่น Future แล้วผม Short เอาไว้เยอะมาก เมื่อหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ port ของผมจึงติดลบเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ได้ถูก Broke นึงแนะนำให้ fix ขาดทุนโดยการเล่น long เมื่อตลาดขึ้นแรงๆจึงปิดสัญญา และเล่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนมีสัญญาณกลับตัวจิงๆ ถึงกลับมา Short เพิ่มอีกทีนึง จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นครับ เจ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ยากจะลืมเลือน ^^

อาจจะมีคนเล่นแล้วได้กำไร แต่ประสบการณ์ผม และลุงโฉลกที่ได้เตือนไว้ ผมไม่คิดว่า Spread จะทำกำไรให้เรามหาศาล และถ้าเราใช้ไม่ถูกจังหวะ จะเสียเอาง่ายๆ ดังนั้นเราจะไปยุ่งทำไม สำหรับผม เอาเวลาไปวิเคราะห์กราฟดีกว่า ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าวิธีนี้ทำกำไรให้เรามหาศาลค่อยเอาเวลาไปศึกษาดีกว่าครับ สำหรับมือใหม่ไม่แนะนำเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่า Broke จะแนะนำทำไม และผมก็ไม่คิดว่า Broke จะทำกำไรได้สักเท่าไหร่จากการเล่น Spread ด้วย

หลังจากเลิกยุ่ง Spread ชีวิตดีขึ้นครับ(แล้วก็เลิกยุ่งกะ Broke นั้นด้วย) ถ้าผิดทาง Cut loss ไปเลย ไม่ต้องไปนั่งมัวคิดว่าจะ Spread อีกฝั่งวุ่นวาย ความจริงเล่นหุ้นคิดแบบง่ายๆก็ หุ้นขึ้นเราเล่นลงก็เจ๊งครับ จะใช้วิธีไรก็เจ๊ง ยังไงผมก็ยังยืนยันว่าผิดทางให้ Cut loss เทคนิคดียังไง ผิดทางยังไงก็ขาดทุน ไปมีสมาธิเอากับเทคนิคการอ่านกราฟ จุด cut loss หรือ stop profit ดีกว่าครับ คุ้มกว่าเยอะ

ผมก็ขอเอาบทความลุงโฉลกส่วนนึงที่พูดเกี่ยวกับเรื่อง Spread มาให้เพื่อนได้พิจารณา และระวังด้วยครับ

สมาชิกจำนวนหนึ่งของเราถูกหลอกให้ลงทุนใน Spread ของตลาด Futures และบางรายอาจหาญเข้าตลาด Forex ผลคือการขาดทุนหมดเนื้อหมดตัว ชมรมโฉลกดอทคอมสอนสมาชิกให้ลงทุนพอให้มีกำไรอย่างรู้จักความ พอเพียง ไม่ได้สอนวิธีหาเงินมากมายร่ำรวยง่ายๆ ใครก็ตามที่หวังร่ำรวยมากๆ ง่ายๆ จากการลงทุน ต้องไปหาวิธีการจากที่อื่น ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่ดี ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่ถูกต้อง ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าที่อื่น ฯลฯ เพียงแต่บอกว่าที่นี่สอนการลงทุนตามระบบที่ได้กำไรแค่ พอเพียง เท่านั้น ครูทุกคนของชมรมจะเน้นการลงทุนในตลาดหุ้น (SET) จนแน่ใจว่าสมาชิกมีความสามารถพอเพียงแล้วจึงจะเริ่มสอนให้ลงทุนในตลาด Futures แต่เราไม่แนะนำให้ใช้ราคาระหว่างวัน (Intraday) และไม่แนะนำให้ลงทุนในตลาด Forex แต่ไม่ได้แปลว่าการใช้ Intraday และ Forex เป็นเรื่องผิด เพียงแต่บอกว่าที่นี่สอนการลงทุนตามระบบที่ได้กำไรแค่ พอเพียง เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือชมรมไม่สอนให้เล่น Spread
ปรกติการลงทุนในตลาด Futures เช่น TFEX ต้องมี Initial margin และ Maintenance margin และบ่อยครั้งที่นักลงทุนโดน Margin call เมื่อ trade ผิดทางด้วย เมื่อตลาดเริ่มขึ้น นักลงทุนส่วนมากจะซื้อ Long positions มากกว่า Short positions ทำให้สภาพคล่องของ Brokers เกิดปัญหา จึงมีคำสั่งให้ marketing ชักจูงให้ลูกค้าเล่น Spread โดยอ้างเหตุผลต่างๆ (ที่หลอกลวง) ผลของการเปิด spread ทำให้จำนวน Open long positions ลดลงทันที บริษัทฯ สามารถใช้เงินในกิจการอื่นได้ และรับ order จากลูกค้าได้เพิ่มขึ้น เมื่อการลงทุนผิดทาง แทนที่จะ stop loss ตามระบบ บริษัทฯ กลับหลอกลวงให้ลูกค้าเปิด spread ซึ่งลงเอยด้วยความหายนะเสมอ นี่คือความโหดเหี้ยมอำมหิตของธุรกิจ แต่ไม่ได้แปลว่าทุก Brokers ทำอย่างนี้นะครับ Brokers ดีๆ มีมากมาย และ Brokers เลวๆ ก็มีมากมาย ชมรมมีสมาชิกอาวุโลที่เป็น Marketing ที่ดีหลายคน สมาชิกที่เริ่มลงทุนใหม่ ควรพิจารณาเลือกบริษัทฯ Brokers ด้วยความระมัดระวัง

หวังว่าจะได้ประโยชน์กันมั้งนะครับ
Boyles
Posted by Tavatchi (boyles) at Friday, August 20, 2010

http://big-move-club.blogspot.com/2010/08/tfex-spread-share.html

วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2555

กฏการเทรด 10 ข้อ และการอยู่รอดในตลาด ที่ต้องท่องให้ขึ้นใจ



กฎของ LARRY
1. ความอยู่รอดคือจุดเริ่มต้น การเก็งกำไรเป็นธุรกิจที่เสี่ยงสูงมากๆ มันไม่เกี่ยวว่า เราจะชนะ หรือแพ้ มันเกี่ยวกับคำว่าเราจะอยู่รอดอย่างไร เมื่อตลาดอยู่ที่จุดต่ำๆ หรือจุดสูงๆ ถ้าคุณอยู่รอดไม่ได้ คุณไม่สามารถชนะได้
อย่างแรกสุดของการอยู่รอด คุณต้องมีแนวทาง หรือวิธีการเก็งกำไรที่ทำได้จริง
ข่าวลือ วงใน ความรู้สึกไม่ใช่แนวทางการเก็งกำไร โอกาสหรือพื้นที่ในการเก็งกำไรจะมาจากความจริงที่สามารถทำได้จริง
นักเก็งกำไรระยะสั้น และระยะยาวอาจมีแนวทางการทำกำไรต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือวิธีการ และเครื่องมือที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้จริง
นักลงทุนส่วนใหญ่ใช้เวลาเยอะมากในการซื้อ laptop แต่ตัดสินใจเร็วมากในการวางเงินเดิมพันจริงๆ ในตลาดทุน
ปัญหาโดยทั่วไป คือมีเทคนิคเยอะมากที่มันใช้ทำเงินจริงๆไม่ได้ เขาแนะนำได้อย่างนึงคือ คุณต้องใช้เวลาให้มากหน่อยในการเรียนรู้ และตัดสินใจในการเข้าเก็งกำไร ในช่วงวิกฤตต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้คุณจะมี การบริหารเงินที่ดี MM มีระบบที่ดี มีรูปแบบการเก็งกำไรที่ทำได้จริง แต่คุณก็ยังต้องควบคุมตัวเองให้ได้อยู่ดี
2. ทั้งหมดนี้ มันคือเกมส์ของอารมณ์ และมันจะเป็นไปตลอด อะไรก็แล้วแต่ที่มันเกี่ยวข้องกับเงิน และยิ่งเป็นเงินของเรา มันทำให้เราตัดสินใจอย่างไร้เหตุผล ความกลัว อารมณ์ต่างๆทำให้นักเทรดเดอร์ทั้งหลายพลาดกับการลงทุนที่ดี หรือเขาเดิมพันที่สูงมาก เมื่อการบริหารเงินถูกคอบงำโดยอารมณ์ โดยปราศจากเหตุผล
3. ความโลภ เมื่อความโลภมีผลต่อเรามากกว่าความกลัว มาดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อคุณเป็นนักเก็งกำไร คุณจะมีความกลัวลดลงกว่าคนทั่วไป เพราะคุณถูกดึงดูดในเรื่องการทำเงินให้ได้ ในขณะที่คนอื่นจะกลัวการขาดทุน
ความโลภเป็นอุปสรรคต่อนักเทรดทั่วไป ความโลภจะทำให้คุณมีความหวังหลงเหลือ ความโลภจะทำให้คุณผลีผลามเข้าในจังหวะที่เสียเปรียบ และออกเร็วเกินไป ความหวังคือศัตรูตัวหลักเพราะมันทำให้คุณฝันถึงกำไรมหาศาล
และออกไปสู่โลกแห่งความฝัน เชื่อผมเถอะ !!! โลกของการเก็งกำไร มันมีจริง และคนมากมายศูนย์เสียเงินที่ตัวเองเก็บมาทั้งชีวิต ชีวิตคู่พัง ครอบครัวแตกแยก จากการได้เสียอย่างมากมายในตลาดนี้
แน่นอน การชนะของเราที่เกิดจากการเก็งกำไร อาจจะชั่วครั้ง ชั่วคราว มันพร้อมจะจากเราไป เหมือนกับเราถูกฟ้องล้มละลาย หรือโกงเลยทีเดียว
ผมไม่สามารถบอกวิธีที่แน่นอนในการจัดการกับความโลภได้ แต่สิ่งที่ผมบอกคุณได้อย่างเดียวคือ คุณต้องควบคุมตัวเองให้ได้ ไม่งั้นคุณจะไม่มีทางรอดจากตลาดแน่นอน
4. ความกลัว
ความกลัวเป็นสาเหตุ ให้คุณไม่กล้าทำในสิ่งที่คุณควรจะทำ ไม่กล้าตัดสินใจเมื่อ ความได้เปรียบมาถึง แน่นอนมันตรงข้ามกับความโลภที่เป็นสาเหตุให้คุณทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
นักจิตวิทยาบอกว่า ความกลัวทำให้คุณไม่กล้าขยับ ถึงแม้โอกาสที่ดีจะวิ่งเข้าหาคุณอย่างมากมายขนาดไหน แต่พวกเขาก็จะมองผ่าน และไม่ทำอะไรกับมันเลย และแย่ยิ่งกว่านั้นคือเขาพลาดโอกาสที่ดีไปแล้ว ถ้าถามผม ผมก็ไม่รู้
แต่ผมบอกได้อย่างเดียวคือ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ผมกลัวมากเท่าไหร่ โอกาสชนะของผมที่จะได้กำไรกลับมีมากขึ้น นักลงทุนทั่วไปกลัวและเอาตัวเองมาจากตำแหน่งที่ได้เปรียบ
5. Money management คือการสร้างความมั่นคั่ง
แน่นอน คุณสามารถทำเงินจากการเป็นเทรดเดอร์ หรือ นักลงทุนก็ได้ แต่ผมบอกได้เลยว่ากำไรส่วนใหญ่มันไม่ได้มาจาก เทคนิคการเทรด รูปแบบการลงทุน มากเท่ากับวิธีการบริหารเงิน หรือการจัดการเงิน
ผมยกตัวอย่าง ผมทำเงินจาก $10,000 เหรียญเป็น 1 ล้านเหรียญใน 1 ปี ในการแข่งขันรายการนึงด้วยเงินจริง ด้วยวิธีง่ายๆคือ เมื่อกำไรเยอะขึ้นคุณก็เทรดเยอะขึ้น และเมื่อกำไรลดลงคุณก็ต้องเทรดด้วยสัญญาที่น้อยลง
และ 10 ปีต่อมา ลูกสาวเขาอายุ 16 ปี ก็ชนะรางวัลการเทรด โดยทำเงินจาก 10000 เหรียญ เป็น 1 แสนเหรียญ ผมบอกได้เลยว่าไม่มีสูตรลับใดๆ ไม่มีกราฟมหํศจรรย์ใดๆ เธอแค่ทำตามรูปแบบการบริหารเงินเหมือนที่ผมได้ทำ
6. การทำกำไรมหาศาล ไม่ได้มาจากการเดิมพันที่สูง
มีเรื่องราวมากมายของนักเทรด อย่าง jesse livermore, john gates, niederhoffer, frankie joe และอีกมากมาย คนพวกนี้เดิมพันสูงมาก และสูญเสียเงินตัวเองหมดในท้ายที่สุด
การลงทุน หรือเก็งกำไรที่ฉลาดจะไม่เดิมพันสูง และไม่มีทาง ทำไมเหรอ คุณสามารถชนะ และทำกำไรมหาศาลเมื่อคุณเดิมพันไม่เยอะ กลับไปดูข้อ 5 ท้ายที่สุด เมื่อคุณเดิมพันสูง เวลาคุณเสีย คุณก็เสียเยอะเช่นกัน
มันเหมือนการเล่น รูเร็ต คุณสามารถเล่นได้บ่อยโดยคุณไม่แพ้เลย แต่ถ้าคุณเล่นบ่อยมากเท่าไหร่ บ่อยจนเพียงพอต่อผลลัพธ์อันเดียวที่คุณไม่มีทางหนีได้ คือ จุดจบ ความตาย และเมื่อคุณเดิมพันสูง คุณก็จะหมดตัวเช่นกัน ตัวผมก็เคยผ่านมาแล้ว เชื่อผมเถอะ
ผมเดิมพันน้อยลง ควบคุมความเสี่ยงให้ได้ ไม่มีวิธีใดหรอกที่จะอยู่รอดในตลาดโดยปราศจากการควบคุมความเสียหาย
7.พระเจ้าอาจช้า แต่พระเจ้าไม่เคยปฏิเสธ
ผมไม่เคยรู้เลย เมื่อไหร่ผมจะทำเงินได้ มันอาจจะเป็นการเทรดครั้งแรก หรือครั้งสุดท้ายของผมเองก็ได้ แต่คุณต้องเตรียมรบ ให้ได้นานที่สุด
ผมคิดว่าความเชื่อในเรื่องของพลัง คือ ปัจจัยในการสำเร็จของนักเทรด มันช่วยให้เรามีวิสัยทัศน์ในการเก็งกำไร
-.- เริ่มง่วง สรุปคร่าวๆ ขอให้เรามีพยายาม และเชื่อในพลังในตัวเอง และมุ่งมั่น ความสำเร็จจะตาม
8. ผมเชื่อเสมอว่า การเทรดในปัจจุบัน ผมจะขาดทุน
อันนี้คือเคล็ดลับความเชื่อในการเก็งกำไร ให้ประสบความเสำเร็จของผมเลยทีเดียว นักเทรดทั่วไป เชื่อเสมอว่า เทรดครั้งต่อๆไป ในอนาคตพวกเขาจะเทรดได้ดีขึ้น และจะเป็นผู้ชนะ
แต่ไม่ใช่ผม !!! ผมเชื่อว่า หลักๆแล้ว หลักการจริงๆแล้ว คือการเป็นผู้แพ้ ผมถามคำถามคุณ คุณคิดว่า ผมที่มี stop อย่างผม และเทรดอย่างถูกต้อง หรือคนที่เทรดด้วยความเชื่อโดยปราศจากเหตุผล คุณคิดว่าใครจะแพ้
ระหว่างผม หรือ คนที่คิดในแง่ดี
ถ้าคุณยังไม่เข้าใจ ผมจะบอกคุณว่าการที่ผมคิดว่าผมเป็นผู้แพ้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมจะปกป้องตัวเอง ในทุกรูปแบบ และทุกเวลา และผมจะไม่อยู่ในความหวัง และความไม่จริง
9. โชคจะมาหาคุณจากการเพ่งความสนใจเพียง 1 ตลาด หรือ 1 เทคนิค
คนที่เทรดหลายๆอย่าง จะไม่ประสบความสำเร็จในการเทรด ทำไม? นักเทรดจะต้องตั้งใจในรายละเอียดของการเทรด โดยปราศจากอารมณ์
การไขว้เขว้อาจหมายถึงต้นทุนคุณที่เพิ่มขึ้น ขาดการใส่ใจ นั่นจะทำให้คุณ ไม่ได้เข้าในจุดที่ควรจะเข้า หรือเพิกเฉยในการเทรดซึ่งนำมาซึ่งต้นทุนที่สูงขึ้น
เหมือนกับพวกที่โยนบอลขึ้นไปในอากาศ มันค่อนข้างยากที่คุณจะควบคุมบอลที่โยนขึ้นไปอากาศ อย่างเช่นบอล 3 ลูก แน่นอนคุณอาจจะฝึกได้ แต่เมื่อเพิ่มลูกบอลขึ้นเรื่อยๆ น้อยคนมากๆที่จะทำได้ และควบคุมลูกบอลพวกนี้ได้
ดูอย่างพวกนักกีฬาสิ พวกเขามุ่งมั่นอยู่แค่กีฬาอย่างเดียว หรือพวกศิลปิน นักดนตรี ไม่มีหรอกที่จะเป็นดาวดังจากการร้อง country western and opera ดังนั้น ยิ่งคุณมุ่งมั่นได้มากเท่าไหร่ในสิ่งที่คุณทำ คุณจะยิ่งประสบความสำเร็จมากมายในด้านนั้นๆ
10. เมื่อสงสัย ให้กลับไปอ่านข้อหนึ่งใหม่
มีเวลาจะมา edit ใหม่ช่วงหลังง่วงๆ อาจแปลงงบ้าง ^^
BOYLES
ที่มา LARRY WILLIAMS

ลองฝึกบันทึก การดู Volume ใน SET50 ครับ



มาดู Volume ของ SET50 วันนี้ กราฟยังเหมือนเดิมเลย ไม่ได้ Up อะไรนะครับ
Volume วันนี้ อย่างที่บอกนะครับ ลองฝึกสังเกตกันดู สำหรับจะดูละเอียดๆ หน่อย จะดู 10 นาทีแรก 30 นาทีแรก และสำคัญที่สุดคือ ตอน 11 โมง และช่วงบ่าย 3 อีกครั้ง
ลองฝึกสังเกตและจดบันทึกเอานะครับ ยกตัวอย่างวันนี้ Volume ตอน 11 โมงเช้าเยอะ และเกิดกระจายตัวกันใน SET 50 ของ TOP 10 แสดงว่าวันลักษณะนี้เหมาะแก่การ LET PROFIR RUN หรือ DAY TRADE
แต่ถ้า Volume กระจุกตัวในหุ้น Big CAP แล้วราคาไม่ไป ให้เตรียมหนีตาย โดยเฉพาะมีสักตัว หรือ 2 ตัว TOP 2 VALUE ราคายืน + ไม่ได้ มีโอกาสย่อ หรือกลับตัวให้ระวัง
คร่าวๆ ลองสังเกตกันดูนะครับ หลักการดู VOLUME มันค่อนข้างตรงฝึกสังเกตดูแล้วจะได้ IDEA กันครับ
ถ้า Volume ต่ำ ก็จะมีหลายแบบ ต่ำที่แนวรับ ต่ำเมื่อย่อ ต่ำแบบ Sideway อันหลังจะสับสนมาก ต้องเล่นตามเทคนิคเป็นหลัก ต่ำเมื่อย่อจะเป็น Trend ต่อ และต่ำเมื่อแนวรับให้ระวังการ Break แล้วสังเกต Volume ตามหลังจากนั้น
เทคนิคพวกนี้ ผมใช้ในการเทรด Future SET50 นะครับ ในการ let profit run และระวังสัญญาณต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ร่วมถึงพิจารณา Noise ของข่าวที่อาจมากระทบตลาดในระยะสั้นๆ
วันนี้ เอาไว้แค่นี้ก่อนครับ
BOYLES

GC ตี Trend line กัน


GC ตี Trend line กัน

ATR TRAILING STOP LEARNING VDO by Big Move Club



ตี FIBONACCI กะ SET50 กันครับ ^^


ตี FIBONACCI กะ SET50 กันครับ ^^

Gold comex มาฝึกตี FIBO กันครับ





boyles

VDO ตัวอย่าง GC case study RSI divergence candle OI Fibo


VDO ตัวอย่าง GC case study RSI divergence candle OI Fibo

True Reversal and Not Ture reversal Pattern ตัวอย่าง



ขอ Share นะครับ เป็นความรู้เรื่อง Reversal นะครับ คล้าย Gartley ที่เคยอธิบาย และยกตัวอย่างไปแล้ว กับที่เกิดในทอง และ SET index นะครับ เป็นความรู้นะครับ

Example True and not true trend reversal

อีกตัวอย่าง ถ้ามันไม่ Low ก็มีโอกาสเป็น True reversal ได้เช่นกัน ถ้าเป็นแบบนี้
Boyles

GOLD 11-2-2011 Fibonance MACD analysis


GOLD 11-2-2011 Fibonance MACD analysis

CASE STUDY CPN FIBO RSI MACD 12-1-2012


CASE STUDY CPN FIBO RSI MACD 12-1-2012

CASE STUDY GOLD 13-1-2012 GARTLEY OI FIBO TRIANGLE


CASE STUDY GOLD 13-1-2012 GARTLEY OI FIBO TRIANGLE

วันนี้มาเรียนรู้ GARTLEY PATTERN ผ่าน VDO


วันนี้มาเรียนรู้ GARTLEY PATTERN ผ่าน VDO

มาเรียนรู้ Upside gain, Downside Risk และ Risk/Reward ในทองกัน


มาเรียนรู้ Upside gain, Downside Risk และ Risk/Reward ในทองกัน

มาดูรูป True Range กัน



Fibo retracement and projection การหาแนวรับ และ เป้าหมาย


Fibo retracement and projection การหาแนวรับ และ เป้าหมาย

และแล้วที่เขียนค้างไว้ก็เขียนเสร็จสะทีครับ
ด้วยคราวนี้รูปเยอะมากเลยทำเป็น file PDF ให้โหลดกันนะครับ ถ้า link เสีย ก็แจ้งมานะครับ
คราวนี้จะเป็น เรื่อง
1. fibo retracement คือการหาแนวรับ fibo โดยจะใช้ตัวเลขที่สำคัญ 61.8 และ 38.2 ครับ
2. fibo projection คือการหาเป้าหมายของราคา โดยจะใช้ ตัวเลข 61.8, 100, 161.8 ครับ
ส่วนอีก 2 อันที่เหลือคือการหา agreement ร่วมของ retracement and projection ว่างๆจะ ทำให้เพิ่มอีกทีนะครับ
โชคดีครับในการเทรดครับ
boyles

มาเรียนรู้ ADX และวิธีใช้ดู end of trend ครับ และการหาจุด buy และ sell


วันนี้เรามาดูเรื่อง ADX กันครับ เป็น indicator อีกตัวที่น่าสนใจครับ ใช้ดูอาไรบ้าง
1. ใช้ดูการจบ trend นะครับ end of trend
2. ใช้หาจุด Buy รวมกับ indicator ต่างๆ
3. ใช้หาจุด sell รวมกับ indicator ต่างๆ
เนื่องจากรูปเยอะมากครับ ดังนั้นผมจึงทำเป็น file PDF 2 part ให้ load ไปลองศึกษาดูนะครับ
ยังไง มีอะไรสงสัยก็ไปคุยต่อกันใน www.facebook.com/bigmoveclub นะครับ
boyles

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

หลักการเทรด commodity ของ larry williams เบื้องต้น

larry update:
Public too long in Cocoa, Crude, Aussie $, Brit Pound, Canadian $, Swiss Franc, Gold, Hogs, Copper, OJ, RB Gasoline, Silver, Oats, Rice, and Wheat มีโอกาสปรับตัวลงรวมทั้ง gold ด้วยนะครับ

Bullish Set ups are: Nat Gas, nikkei, Bonds and Notes along with the entire
Soybean complex (ie beans, oil, and meal).

Seasonally speaking, the 11th and 12th trading day of March have been very
bullish for the SP500.

It's Coming... A Commodity Collapse

I counted them up this weekend, finding 15 commodity markets where the small speculators are at historically high net positions. Similar readings in the past have occurred in the areas of major sell offs.

larry

โดยหลักการของ larry เขาจะใช้ fundamental ในการดูตลาด set up for a rally ในขาขึ้น หรือใกล้จะลงแล้ว และใช้ technical ในการจับสัญญาณการ open long or short

fundamental ของเขาจะยึด commercial ที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่สุดในตลาดเป็นหลักในการ follow โดยเขาจะทำ commercial index ของเขาขึ้นมาเพื่อดูว่าตลาด set up for a bullish or ใกล้จุดสูงสุดแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้า comercial bullish มาก และ small speculators(รายย่อย) bearish จัดๆ แสดงว่า ตลาดใกล้จุดต่ำสุดและมีโอกาส rally ในอนาคตอันใกล้

หลังจากนั้น เขาจะใช้เทคนิคในการจับสัญญาณเข้า และออก โดยเทคนิคเขามีหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การใช้ moving average การทำเป็น channel high low การใช้หลัก turtle trading

ทำไมเขาจึงใช้เทคนิคเขามาดูสัญญาณการซื้อขาย?

บางครั้ง fundamental ของเขาจะ setup rally แล้วบางครั้งมันก็ยังไม่ขึ้นเลย ยังมี small speculator ที่ยังขายอยู่เยอะในตลาด บางครั้งตลาดจะยังลงต่ออีกเป็นเดือนๆ แต่หลังจากนั้นเริ่มมีแรง buy จนมีสัญญาณเข้าซื้อทางเทคนิค ก็จะเป็นการเข้าซื้อจริง โดยยึดหลักเล่นตาม commercial ผู้ซึ่งเป็น big guy ในตลาด

เราก็กลับมาดูหัวข้อ ซึ่งที่เขาต้องการสื่อสารคือ fundamental ที่ดูเหมือนจะใกล้จุดสูงสุดแล้ว ตลาดน่าจะใกล้ set up bearish (ซึ่งเขาดูกราฟ weekly บางครั้งอาจกินเวลาเป็นเดือนๆจากที่เขาบอกถึงจะลง)

เราจะยังไม่เริ่มการ start short จนกว่าจะเกิดสัญญาณ short ทางเทคนิคจากระบบ (เรื่องนี้ เรื่องระบบที่เขาใช้เขียนยาวครับ ว่างๆจะมาเขียนอีกทีครับ) ด้วยเหตุผลที่ว่า หุ้นอาจจะวิ่งต่อได้จาก public rally ซึ่งนั้นไม่ใช่สัญญาณที่ดีหนัก เราจึงยังไม่อาจ short ได้เลย ถ้ามีสัญญาณทาง fundamental อย่างเดียว

เขาได้อธิบายไว้ว่า อย่างน้อยเราต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เราเล่นอยู่เป็น commercial rally หรือ public rally ซึ่งการขึ้น ความแรง ความ bullish จะต่างกันเช่นกัน

ในทางกลับกัน ถ้า fundamental ไม่แสดงสัญญาณการ bull หรือ bear สัญญาณทางเทคนิคในทาง buy ของเขาจะ ignore หรือไม่เข้าซื้อ นี่เป็นวิธีกำจัด noise ของเขาเพื่อไม่ให้กิน whipsaw เมื่อ commodity ไม่ได้เป็นขาขึ้นจริงๆ

สรุป เขาบอกว่า commodity ใกล้ลงจาก fundamental เขาก่อน และจึงเริ่มทำการ short ถ้ามีสัญญาณทางเทคนิค นี่คือหลัก และวิธีการเล่นของเขาคร่าวๆครับ

หวังว่าคงพอเข้าใจบ้างนะครับ งงไหมครับ ^^

boyles

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Set จะเหยียบ 1700 หรือ 3000 มีโอกาสแค่ไหน




ผมวิเคราะห์ว่าในหลายๆปีข้างหน้า Set น่าจะวิ่งได้ในระดับ 1500 - 1700 นะครับ แต่ล่าสุดลุงโฉลกวิเคราะห์ว่าทองจะขึ้นไปเรื่อยๆ และ Set จะวิ่งขึ้นไป 3000 มันคงยากมากถ้าจะเชื่อในเวลานี้่ แต่เราก็คงจะไม่ได้เชื่ออย่างลืมหูลืมตานะครับ มาดูเหตุผลที่เห็นด้วยว่าวิ่งจะขึ้นไประดับนั้นได้อย่างไร จากการศึกษาและการไปสัมมนามาหลายๆที่ ก็เลยพอสรุปได้ดังเหตุผลของเทคนิค และพื้นฐานดังนี้ ในสไตล์ผมนะครับ

ทางด้านเทคนิค
1. ผมอยากให้ดูภาพใหญ่ก่อน นั้นคือ monthly chart ถ้านับตาม Wave ตอนนี้ควรจะนับเป็น wave 3 เพราะ break 1 ไปแล้วและ momentum ของ RSIเริ่มจะ bullish แล้ว ดังนั้นในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าภาพจะชัดกว่านี้ว่า RSI ของเดือนจะ Bullish จิงหรือไม่
2. สัญญาณการ buy เกิดขึ้นที่ set ระดับ 700 - 800 ครับ
3. ถ้า RSI bullish จริงดังนั้น มันก็ new high ไปเรื่อย อาจจะมีปรับฐานบ้างจนกว่าจะมีสัญญาณการอ่อนตัวในระดับเดือนนะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง set ยังไปได้อีกไกลมาก
4. ถ้าเรามาดูกราฟ week บ้างนะครับ สัญญาณ bullish ชัดเจน ถ้าสมมุติว่าเรามี high ไปแล้วที่ 98X จริง การปรับฐานลงมาระดับ 850 - 900 จริง ก็ยังต้องมี new high เพื่อแสดงสัญญาณ divergence ของ RSI อยู่ดี แต่ผมยังคิดว่ายังมี new high อยู่จากหมวดพลังงาน ก่อนจะปรับฐาน ถ้าสรุปดังนี้ set จะวิ่งอีกไกลครับ หรือถ้ามันปรับฐานลงมาก็เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นอยู่ดี เพื่อไปทำกำไรในระดับ set ขึ้นไป 200 - 300 จุด up จากการปรับฐาน(ในระยะกลางนะครับ ระดับภายใน 1 ปี)
5. ถ้าดูกราฟ Day เริ่มมีสัญญาณของการอ่อนตัวแล้วดังนั้น จากจุดนี้ต้องระวัง โดยไปดูแยกเป็น sector แล้วเลือกหุ้นเป็นรายตัวไป ตอนนี้ที่ผมเห็นก็มีแต่หมวดพลังงาน และ Agriculture (เริ่มมีสัญญาณซื้อเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ momentum ยังอ่อนอยู่) Food ก็เหมือนจะอยู่ในช่วงท้ายของการปรับฐานแล้ว
6. กราฟค่าเงิน ชนแนวต้าน 29.8 และเริ่มรีบาวน์ คิดว่าคนคงกลัวเรื่องการเล่นข่าวเรื่องค่าเงินในจังหวะที่มัน rebound แต่สัญญาณ RSI ยังไม่มีการอ่อนตัวเลย ผมคิดว่ายังไงก็ทะลุครับ 29.8บาทต่อ ดอลล่าร์ (ถ้าผมวิเคราะห์ กรณ์คงไม่กล้าเล่นมาตราการหนัก เพราะรู้ว่าเงินที่ไหนมาลงทุนในไทย จะทำให้หุ้นขึ้นหมาศาลในอนาคต มือฉมังการเล่นหุ้นระดับกรณ์ ไม่น่าขวางสิ่งที่จะทำให้หุ้นขึ้นมหาศาลในอนาคต จาก fundflow)
7. ค่าเงินที่ไหลทะลังเข้ามาไทย ถ้าดูจากกราฟคงคิดว่าจะทะลักเข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นเราไม่ต้องมานั่งคิดว่าทำไมมันเอาเงินมาลงในไทย เรารุ้แค่ไทยต้องมีดีกว่าที่อื่นบางที่แน่ๆ เงินถึงไหลเข้าไทยมามหาศาล เพราะพวกผู้จัดการพวกนี้ต้องเก่ง และคิดมาเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่ต้องเก่งเท่าพวกนั้นก็ได้ เราก็ใช้เขาให้เป็นประโยชน์ ตามเขาไป เดี๊ยวเขาจะออกก็จะมีสัญญาณออกมาเอง ไม่ต้องรีบร้อน
8. เงินที่ไหลเข้ามาลงทุนใน bond น่าจะราว 2 แสนกว่าล้านไปแล้ว มันจะมีความสัมพันธ์อย่างไร ต่อตลาดหุ้นเดี๊ยวมาดูกันต่อครับ

ทางด้านพื้นฐาน
9. มาดู six stages of business cycle ในรูปนะครับ เรายังอยู่ในช่วงต้นๆของ cycle อยู่เลย ดังนั้นเงินที่สะสมใน bond ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนผลตอบแทน bond เริ่มคงที่ และลดลง ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หุ้นจะกลับมา bullish อีกครั้ง จากเงินที่ต่างชาติทะยอยเข้าซื้อสะสมตั้งแต่ช่วงนี้ล่ะครับ
10. ถ้าดูจากเหตุการณ์ปัจจุบันแล้ว + cycle แล้วยังไม่ใช่ช่วงที่ bullish จิงๆ ของตลาดหุ้นเลย หุ้นยังขึ้นมาได้ขนาดนี้ น่าสนใจนะครับ ว่าเข้าสู่ cycle 4 แล้วหุ้นจะ bullish ขนาดไหน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้มา set จะขึ้นไปแตะ 1700 หรือ 3000 อย่างที่คุณลุงว่าไว้ได้เช่นกัน ในอีกหลายๆปี ต่อจากนี้ไป
11. การวิเคราะห์การเปลี่ยนขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจมาจีน ที่จะช่วยชับเคลื่อนธุรกิจในภาพอุตสาหกรรม และการบริโภคทรัพย์เพื่อการนำเข้าของมหาอำนาจใหม่ อันนี้ขอข้ามนะครับ มันจะยาวจนเกินไป

เป็นมุมมอง และการวิเคราะห์สไตล์ผมนะครับ ว่างๆมาแลกมุมมองกันใหม่นะครับ
boyles