วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เล่น Future อย่าเล่น Spread นะครับ เป็นบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2010


*** เล่น Future อย่าเล่น Spread นะครับ เป็นบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่ปี 2010 ล่ะครับ ผ่านไปกี่ปี ก็ยังมีคนหมดตัวกับ spread ตลอด ฝากไว้สำหรับมือใหม่ในตลาด Future นะครับ ***

เสน่ห์ของ Future คือ Magic of Compound นะครับ แต่คนส่วนมากไม่สามารถอยู่ได้ถึงการเรียนรู้ในช่วงที่สามารถทำกำไรมหาศาลของตลาด Future ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน และหนึ่งในนั้นคือ Spread ด้วยเช่นกันครับ

เล่น TFEX อย่าเล่น Spread นะครับ Share ประสบการณ์

พอดีวันนี้ ว่างนิดๆ ก็คิดถึงเรื่อง spread ที่ลุงโฉลกเตือนเอาไว้ ก็เลยอยากจะมา Share idea เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ้งผมก็เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้เช่นกัน และก็เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณลุงได้เตือนเอาไว้เช่นกัน

Spread นี่ที่เห็นเขาพูดๆกัน ก็เห็นมีหลายอย่าง(ถ้าผิดขออภัย) นับตั้งแต่การหาสินค้าที่วิ่งตามกันในตลาดอย่างเช่นตลาดเกษตรล่วงหน้าที่ประเทศไทย Afet เทียบกับตลาดเกษตรที่ญี่ปุ่น Tocom เพราะถ้า 2 ตลาดนี้วิ่งไปในแนวโน้มตรงข้ามกัน ท้ายที่สุดมันจะปรับเข้าหากัน แต่ผมว่าเหมาะแก่การนำไปวิเคราะห์รวมกันมากกว่าการเล่น Spread

หรือ การดูผลต่างระหว่าง 2 สัญญาใน Future แล้วทำกำไรจากการบีบตัว หรือทิ้งห่างกันของสัญญาที่ใกล้เคียงกัน

หรือใช้ในการ fix ขาดทุน เพื่อบรรเทาการขาดทุนเมื่อเรามองผิดทาง

ผมขอ Share ประสบการณ์ผมล่ะกัน ผมเล่น Future แล้วผม Short เอาไว้เยอะมาก เมื่อหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ port ของผมจึงติดลบเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ได้ถูก Broke นึงแนะนำให้ fix ขาดทุนโดยการเล่น long เมื่อตลาดขึ้นแรงๆจึงปิดสัญญา และเล่นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนมีสัญญาณกลับตัวจิงๆ ถึงกลับมา Short เพิ่มอีกทีนึง จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นครับ เจ๊ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ยากจะลืมเลือน ^^

อาจจะมีคนเล่นแล้วได้กำไร แต่ประสบการณ์ผม และลุงโฉลกที่ได้เตือนไว้ ผมไม่คิดว่า Spread จะทำกำไรให้เรามหาศาล และถ้าเราใช้ไม่ถูกจังหวะ จะเสียเอาง่ายๆ ดังนั้นเราจะไปยุ่งทำไม สำหรับผม เอาเวลาไปวิเคราะห์กราฟดีกว่า ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าวิธีนี้ทำกำไรให้เรามหาศาลค่อยเอาเวลาไปศึกษาดีกว่าครับ สำหรับมือใหม่ไม่แนะนำเลยครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่า Broke จะแนะนำทำไม และผมก็ไม่คิดว่า Broke จะทำกำไรได้สักเท่าไหร่จากการเล่น Spread ด้วย

หลังจากเลิกยุ่ง Spread ชีวิตดีขึ้นครับ(แล้วก็เลิกยุ่งกะ Broke นั้นด้วย) ถ้าผิดทาง Cut loss ไปเลย ไม่ต้องไปนั่งมัวคิดว่าจะ Spread อีกฝั่งวุ่นวาย ความจริงเล่นหุ้นคิดแบบง่ายๆก็ หุ้นขึ้นเราเล่นลงก็เจ๊งครับ จะใช้วิธีไรก็เจ๊ง ยังไงผมก็ยังยืนยันว่าผิดทางให้ Cut loss เทคนิคดียังไง ผิดทางยังไงก็ขาดทุน ไปมีสมาธิเอากับเทคนิคการอ่านกราฟ จุด cut loss หรือ stop profit ดีกว่าครับ คุ้มกว่าเยอะ

ผมก็ขอเอาบทความลุงโฉลกส่วนนึงที่พูดเกี่ยวกับเรื่อง Spread มาให้เพื่อนได้พิจารณา และระวังด้วยครับ

สมาชิกจำนวนหนึ่งของเราถูกหลอกให้ลงทุนใน Spread ของตลาด Futures และบางรายอาจหาญเข้าตลาด Forex ผลคือการขาดทุนหมดเนื้อหมดตัว ชมรมโฉลกดอทคอมสอนสมาชิกให้ลงทุนพอให้มีกำไรอย่างรู้จักความ พอเพียง ไม่ได้สอนวิธีหาเงินมากมายร่ำรวยง่ายๆ ใครก็ตามที่หวังร่ำรวยมากๆ ง่ายๆ จากการลงทุน ต้องไปหาวิธีการจากที่อื่น ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่ดี ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่ถูกต้อง ไม่ได้แปลว่าที่อื่นไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าที่อื่น ฯลฯ เพียงแต่บอกว่าที่นี่สอนการลงทุนตามระบบที่ได้กำไรแค่ พอเพียง เท่านั้น ครูทุกคนของชมรมจะเน้นการลงทุนในตลาดหุ้น (SET) จนแน่ใจว่าสมาชิกมีความสามารถพอเพียงแล้วจึงจะเริ่มสอนให้ลงทุนในตลาด Futures แต่เราไม่แนะนำให้ใช้ราคาระหว่างวัน (Intraday) และไม่แนะนำให้ลงทุนในตลาด Forex แต่ไม่ได้แปลว่าการใช้ Intraday และ Forex เป็นเรื่องผิด เพียงแต่บอกว่าที่นี่สอนการลงทุนตามระบบที่ได้กำไรแค่ พอเพียง เท่านั้น ที่สำคัญที่สุดคือชมรมไม่สอนให้เล่น Spread
ปรกติการลงทุนในตลาด Futures เช่น TFEX ต้องมี Initial margin และ Maintenance margin และบ่อยครั้งที่นักลงทุนโดน Margin call เมื่อ trade ผิดทางด้วย เมื่อตลาดเริ่มขึ้น นักลงทุนส่วนมากจะซื้อ Long positions มากกว่า Short positions ทำให้สภาพคล่องของ Brokers เกิดปัญหา จึงมีคำสั่งให้ marketing ชักจูงให้ลูกค้าเล่น Spread โดยอ้างเหตุผลต่างๆ (ที่หลอกลวง) ผลของการเปิด spread ทำให้จำนวน Open long positions ลดลงทันที บริษัทฯ สามารถใช้เงินในกิจการอื่นได้ และรับ order จากลูกค้าได้เพิ่มขึ้น เมื่อการลงทุนผิดทาง แทนที่จะ stop loss ตามระบบ บริษัทฯ กลับหลอกลวงให้ลูกค้าเปิด spread ซึ่งลงเอยด้วยความหายนะเสมอ นี่คือความโหดเหี้ยมอำมหิตของธุรกิจ แต่ไม่ได้แปลว่าทุก Brokers ทำอย่างนี้นะครับ Brokers ดีๆ มีมากมาย และ Brokers เลวๆ ก็มีมากมาย ชมรมมีสมาชิกอาวุโลที่เป็น Marketing ที่ดีหลายคน สมาชิกที่เริ่มลงทุนใหม่ ควรพิจารณาเลือกบริษัทฯ Brokers ด้วยความระมัดระวัง

หวังว่าจะได้ประโยชน์กันมั้งนะครับ
Boyles
Posted by Tavatchi (boyles) at Friday, August 20, 2010

http://big-move-club.blogspot.com/2010/08/tfex-spread-share.html

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Power of Overtrade เทรดยังไงให้หมดตัว

วันนี้จะให้ดู Power of Overtrade เทรดยังไงให้หมดตัว

เราเคยรู้หรือไม่ว่ามูลค่าการเทรดของสัญญากระดาษ TFEX มีมูลค่าเท่าไหร่ ???

อันนี้ผมยกตัวอย่าง port demo เงิน 5 ล้านบาทนะครับ ที่จะให้ดูอยากให้ดูวงกลมด้านบนสุด เรามีเงิน 5 ล้านบาทเราสามารถเล่นได้ถึง 130 สัญญา นั้นหมายความว่าเราสามารถบริหารเงินได้ถึง 117 ล้านบาท แล้วมาดูวงกลมด้านล่าง % การแกว่งติดลบไปไม่ถึง 1% เลยครับ แต่ port เราขาดทุนถึง 20% เลยทีเดียว นั้นหมายความว่า

1. ถ้าเราถือผิดทาง เพียง 3-4% ผลลัพธ์
 หมดตัว !!!!
2. ถ้าเราโดน Stop 3-4 ครั้ง ผลลัพธ์ หมดตัว !!!!!
3. ถ้าเราเล่น spread ที่เห็นชอบแนะนำกัน ถ้าปลดผิดฝั่ง แล้วเหลือสถานะที่ผิดแล้วยัง overtrade ผลลัพธ์ หมดตัว !!!!!!
4. กำไรมาขนาดไหน เล่น overtrade หมดตัว !!!!!!
5. เล่นสั้น โดยความผันผวนตลาดกิน stop ไม่กี่วันก็ หมดตัว !!!
6. เล่นยาวหน่อย ตั้ง stop ในจุดที่สำคัญ เทรดดีทกอย่าง % การเทรดก็ดี แต่ถือข้ามวัน ทั่วโลก panic ลงกัน5-6% หรือ ประเทศ ไทยยิงกัน SET50 เปิดกระโดดเลย 3-4% ไม่รอด หมดตัว!!!!

แน่นอนไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ถ้าเรามีเงิน 5 แสนบาท เราจะสามารถบริหารเงินได้สูงสุดถึง 12 ล้านบาท แล้วเราจะไม่เห็นคนเล่น tfex เครียดได้อย่างไร ??? หมดตัวได้อย่างไร ???

เหตุการณ์โดยปกติ ไม่ได้จบเพียงแค่หมดตัว ส่วนมากคนจะต้องการเอาคืน ยืมเงินเพื่อน ยืมตังพ่อแม่ ขายรถ เอาตังมาแก้แค้น แต่สุดท้าย โลกของการ overtrade ถ้ายังไม่เรียนรู้ มีอะไรก็ไม่เหลือครับ

ยิ่งตลาดไทย 1 เดียวในโลก ราคาสินค้าแพงขึ้น กลับวางเงินประกันลดลง เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ถึงขีดสุด ซึ่งง่ายมากต่อการ overtrade และเล่นกับอารมณ์และจิตวิทยาการเอาคืน (ไม่เหมือนอย่างเช่นตลาด comex ทอง ทองขึ้นเยอะๆ เพิ่มหลักประกัน ทองลงก็มีการปรับการวาง margin ลดลง แต่พี่ไทยกลับตรงกันข้าม) ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าที่ผมยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลง 3-5% ของ Future สามารถทำให้คนหมดตัว ในปีถัดไป เราจะเห็นคนหมดตัวกับตลาด TFEX นับไม่ถ้วนแน่นอนครับในอนาคต และตลอดไป

อย่าตกเป็นเหยื่อของความโลภ และการ Overtrade นะครับ

Boyles Big Move club






วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Basic set50 Future money management และการไม่ overtrade





ด้วยความที่ตลาดไทย ตอนนี้ขึ้นมาเยอะมาก มูลค่าของสัญญากระดาษที่สูงมาก ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ความผันผวนในตลาดจะมีโอกาสทำให้เราหมดตัวสูงมากในตลาด Future รวมถึง margin ตลาดที่ทำให้เราสามารถ overtrade ได้ง่ายจนเป็นสาเหตุให้หมดตัวได้เลย

ผมเชื่อ
เหลือเกินมาจากนี้ไปอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีคนหมดตัวจาก Future อีกเยอะมาก ทั้งผิดเทรน และโดน volatile ตลาดกิน stoploss นับครั้งไม่ถ้วน แค่ในอดีตผมก็เจอมาเยอะแล้วตั้งแต่หลักล้านยัน 100 ล้าน ดังนั้นตลาดไทยตอนนี้ ผมบอกได้เลยว่าง่ายมากที่จะหมดตัวจากการเล่น Future เลยเอา money management basic กลับมาทำใหม่ ให้เพื่อนได้ปกป้องตัวเอง และอยู่รอดเรียนรู้กับตลาดให้ได้อีกนานๆนะครับ

ยังไง อย่าพยายาม overtrade นะครับ ผมเห็นจุดจบจากการ overtrade มาเยอะแล้ว ตั้งแต่ได้มาเป็น 10 ล้านยันหมดตัวนะครับ บางคนถึงกลับต้องขายบ้านมาใช่หนี้นะครับ ยังไงอย่าประมาทนะครับ ยังไงเราเรียนรู้ และพัฒนาตัวเราเยอะๆนะครับ

โชคดีกันนะครับ
Boyles Big Move Club

http://youtu.be/FzWzaNdY3Ms

For Download

Excel Basic MM
http://www.4shared.com/office/TJP_em5L/Money-management-By-Big-move-c.html

Boyles

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รายละเอียดการรับสมัคร กลุ่มเรียนรู้การเทรด SET50, GOLD, COMMODITY FUTURE รุ่น 2 (ระยะเวลาการเทรน 6 เดือน)


รายละเอียดการรับสมัคร กลุ่มเรียนรู้การเทรด SET50, GOLD, COMMODITY FUTURE รุ่น 2  (ระยะเวลาการเทรน 6 เดือน)

โดยแบ่งค่าใช้จ่ายเป็น 2 ส่วน

            1. ค่าใช้จ่ายในการซื้อข้อมูล 7,000 บาท (รายละเอียดจะอธิบายต่อไปในส่วนล่าง ว่าผู้เรียนจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลอย่างไรบ้าง)  โดยข้อมูลต่างๆ จะถูกแบ่งอยู่ในหมวดต่างๆดังนี้
***  ผู้สมัครสามารถเลือกซื้อข้อมูลอย่างเดียว โดยไม่จำเป็นต้องลงสัมมนาก็ได้ *** 
1.1              Facebook Private Group จะวางแผนการเทรดให้ในแต่ล่ะ Products และฝึกการใช้ข้อมูลต่างๆ ในแต่ละอาทิตย์ตลอด 6 เดือน รวมถึง Update ในแต่ละวัน
1.2              Blog จะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ในการเทรด ทั้งแผนรายอาทิตย์ VDO การเทรด File สัมมนาต่างๆให้ Download โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ รวมถึงเอา VDO ต่างประเทศ ของคนมีชื่อเสียง ที่เกี่ยวกับเทคนิคการเทรดมาทยอยแปล และข้อมูลต่างๆ จะถูกสรุปเป็นภาษาไทย ด้วยเช่นกัน
1.3              Line จะเป็นโปรแกรม สอบถาม พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนในกลุ่ม

2.  การสัมมนา อบรมจะแบ่งออกเป็น
การสัมมนา เรื่องการใช้ข้อมูล และเทคนิค รวมทั้งหมด 7 ครั้ง (1 ครั้ง/เดือน) โดยรายละเอียดเนื้อหาการสอนจะให้ไว้ด้านล่างอีกครั้ง โดยมีค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,000 บาท (สถานที่ โรงแรมในย่านสุขุมวิท) แบ่งเป็น 3 course
-          General course (กรุงเทพ) เรียน 1 ครั้ง/เดือน ระยะเวลา 6 เดือน
-          Intensive course (กรุงเทพ) เรียน 6 ครั้ง รวมระยะเวลา 2 เดือน
-          Intensive course (เชียงใหม่) เรียน 6 ครั้ง รวมระยะเวลา 3 เดือน (3,000.-/ครั้ง)

*** ขอรับจำนวนจำกัด  สนใจติดต่อได้ที่ boy_09@hotmail.com หรือ  www.facebook.com/bigmoveclub
*** ปิดรับสมัครวันที่ 5 ธันวาคม 2555  ***

รายละเอียดการโอนเงิน ชื่อ บัญชี ธวัชชัย มีมงคลเกียรติ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 994-2-04936-3
ออมทรัพย์ สาขาเพียวเพลส รามคำแหง


ตารางเรียน
General Course (7 ครั้ง)
เสาร์ 15 ธันวาคม 2555 : Basic Training ปูพื้นฐานก่อนการเทรด
เสาร์ 19 มกราคม 2556 : Candlestick การอ่านแท่งเทียน
เสาร์ 9-10 กุมภาพันธ์ 2556 : Fibonacci และ Workshop
เสาร์ 9 มีนาคม 2556 : การใช้ Indicator
เสาร์ 20 เมษายน 2556 : Money management
เสาร์ 18 พฤษภาคม 2556 : การเอาเทคนิคมาใช้ร่วมกัน และการใช้ระบบในการเล่นสั้น และยาว

Intensive Course (7 ครั้ง เนื้อหาจะเหมือนกับ General Course แต่เร่งรัดเรียนจบภายใน 1 เดือน)
เสาร์ 15 ธันวาคม 2555 : Basic Training ปูพื้นฐานก่อนการเทรด (ครั้งที่ 1 จะเรียนรวมกับ General Course)
อาทิตย์ 13 มกราคม 2556 : Candlestick การอ่านแท่งเทียน
อาทิตย์ 20 มกราคม 2556 : Fibonacci
เสาร์ 26 มกราคม 2556 : Fibonacci Workshop
อาทิตย์ 27 มกราคม 2556 : การใช้ Indicator
เสาร์ 2 กุมภาพันธ์ 2556 : Money management
อาทิตย์ 3 กุมภาพันธ์ 2556 : การเอาเทคนิคมาใช้ร่วมกัน และการใช้ระบบในการเล่นสั้น และยาว
** สถานที่สอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามจำนวนผู้เข้าร่วมอบรม**

ส่วนแรก: ข้อมูลที่นำมาศึกษา และใช้งานตลอด 6 เดือน มีรายละเอียดดังนี้
1.  ข้อมูล COT, Sentiment และ Seasonal ของตลาด Commodity อย่างเช่น ทอง น้ำมัน น้ำตาล ถั่วเหลือง เป็นต้น
2. Forecast 2013 by Larry Williams
3. Larry TV Subscription
4. Almanac Subscription
5. Commodity Trading course by Larry Williams
6. Larry scan pattern and Joe indicator (optional)
7. VDO Course เทคนิคการเทรดต่างๆ ที่น่าสนใจ
*** มูลค่าข้อมูลทั้งหมดเฉลี่ย 270,000 บาท (รวมโปรแกรมเทรด

ยกตัวอย่างการใช้ข้อมูลต่างๆ ในตลาด Commodity และ Stock
1. ตัวอย่างข้อมูล COT and Sentiment (ข้อมูล COT เส้นแดง คือเส้น Commercial หรือรายใหญ่ในตลาด Commodity เราจะดูว่ามีการเก็บของ Position Long หรือ Short มากกว่ากัน และข้อมูล Sentiment คือนักวิเคราะห์ทั่วไปว่า Bull หรือ Bear ขนาดไหน)


2. ข้อมูล Seasonal และ Forecast  ตัวอย่างข้อมูล Forecast ที่แสดงตั้งแต่ปลายปี 2011



3. การเอาข้อมูลมา money management

4. LARRY SUBSCRIPTION  จะ Capture VDO ของ LARRY ให้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เป็นภาษาอังกฤษต้นฉบับ และจะสรุปให้ ประกอบ  VDO เพื่อศึกษาว่า Trader ที่เขาประสบความสำเร็จ เขามีวิธี แนวคิดอย่างไร รวมถึงการวางแผนการเทรดในแต่ล่ะสัปดาห์ และการเลือกสินค้าในการเทรดแต่ละตลาด
(LARRY William คือนักเทรด Commodity Future รวมถึงตลาดมา 50 ปี และเคยชนะรางวัลเทรดเงินจริง จากเงิน 3 แสนเป็น 30 ล้านบาทเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ดังนั้นแนวทางของเขาน่าศึกษาตามไม่น้อยทีเดียว http://youtu.be/38LQgtn10hY)

5. ALMANAC SUBSCRIPTION จะเป็น Monthly ออกเดือนละครั้ง  สรุปการเทรด Future, Forex, Stocks คล้าย Road Map ของพวกกองทุน รวมถึงสถิติการเทรด และ ความน่าจะเป็นในการเทรดในช่วงนึ่งของปี  รวมถึงยังได้แนวทางการใช้ระบบร่วมกับ สถิติในแต่ล่ะช่วงเวลาด้วย และยังเทคนิคอื่นแทรกอีกด้วยเช่นกัน

6. เครื่องมือของ LARRY SCAN PATTERN จะ UPDATE เมื่อมีตัวอย่างที่น่าสนรวมถึง  JOE INDICATOR ด้วย

7. VDO Course รวมถึง Magazine เทคนิคการเทรดต่างๆ ที่น่าสนใจ
8. ตัวอย่าง Blogger ข้อมูลจะทยอยลงเรื่อยๆ


ส่วนสอง: Training Outline Course  สอนวันเสาร์ กลางเดือน กำหนดการคร่าวๆ
ครั้งที่ 1: BASIC TRAINING
1. สอนสมาชิกฝึกเปิดกราฟผ่าน EFINANCE, METASTOCK, MILLENNIUM TRADER และรวมถึงการใส่ INDICATOR
2. จะให้ IDEA ความรู้เบื้องต้น และ BASIC ของการทำกำไรในตลาดหุ้น
3. จะยกตัวอย่างการระวังตัวในการหมดตัวใน FUTURE สาเหตุของการหมดตัว 
4. รวมถึงห้าม SPREAD ในการล๊อคขาดทุนเด็ดขาด
5. สอนการใช้ MONEY MAGEMENT ผ่านตาราง EXCEL 
6. สอนการกำหนดจุด STOPLOSS แบบ BASIC


ครั้งที่ 2 
 Candlestick + การดูรอบในการเล่นหุ้นและทอง
1. เข้าใจแรงซื้อ แรงขายทั่วไปของแท่งเทียน และไส้เทียน
2. การหาจุด Stoploss และเลื่อน stop โดยใช้แท่งเทียน
3. การหาแนวรับ แนวต้านจิตวิทยาโดยใช้แท่งเทียบ
4. เรียนรู้ความหมายของ Doji และ Hammer ในตำแหน่งที่มีความหมายและไม่มีความหมาย
5. เรียนรู้การยุบแท่งเทียน เพื่อตีความแท่งเทียนให้มีนัยยะเพิ่มขึ้น
6. ทำความเข้าใจกับแท่งเทียนโดยไม่ต้องจำรูปแบบของ Pattern ต่างๆ


ครั้งที่ 3-4
จะใช้ Amibroker กับ E-Finance นะครับในการสอน

 FIBONACCI RETRACEMENT การหาแนวรับ 
1. การใช้ เส้น ZIG ZAG ในการช่วยกำหนด LOOP
2. การกำหนดเวลา LOOP จากเวลา
3. การใช้ Fibo ประกอบ Candlestick ในการหาแนวที่มีนัยยะ
4. การใช้ Fibo ร่วมกับ RSI เพื่อดู Momentum ในการหาแนว Retracement 
5. workshop


FIBONACCI PROJECTION การหาเป้าหมายของราคา
1. การกำหนด LOOP โดยจากการหาอัตราส่วน Retracement เพื่อหา PT(PROFIT TAKING)
2. การลาก LOOP ในหลาย TF เพื่อหาเป้าหมายที่มีนัยยะ
3. การใช้ PROJECTION ร่วมกับ Candlestick และ RSI
4. Workshop

 FIBONACCI AGREEMENT การหาแนวรับร่วม และแนวเป้าหมายร่วม
1. การหา retracement หลายรูปเพื่อหาแนวรับร่วม ร่วมถึงการเลือกลูปโดยใช้ Candlestick ร่วมกับ RSI
2. การหา Projection หลายรูปเพื่อหาแนวรับร่วม ร่วมถึงการเลือกลูปโดยใช้ Candlestick ร่วมกับ RSI
3. WorkShop


RETRACEMENT + PROJECTION
1. Fibonacci Retracement ร่วมกับ Projection เพื่อหาแนวที่มีนัยยะมากขึ้น
2.  การใช้ RSI รว่มกับ candlestick ในการตัดสินใจ หาจุดที่มีนัยยะ
3. Workshop

 FIBO EXPANSION
1. การหาเป้าหมายราคาโดยใช้ EXPANSION 
2. การใช้ FIBO EXPANSION เพื่อการเล่น SWING TRADE ในช่วง SIDEWAY 
3. Workshop


การคำนวณ RATIO WIN/LOSS
1. เมื่อเราสามารถกำหนด จุด STOPLOSS จาก CANDLESTICK ในการสอนครั้งที่ 2 ไปแล้ว
2. การเรียนครั้งนี้จะทำให้เราสามารถคำนวณเป้าหมายเพื่อใช้ในการหา WIN/LOSS RATIO ได้
3. Workshop



ครั้งที่ 5
1.การดู RSI SIDEWAY, BULL, BEAR ใน TF ใหญ่และเล็ก
2. RSI DIVERGENCE โดยดูผ่านแท่งเทียนอย่างไร ลักษณะการย่อ และขึ้นเบรคต่อ
3. การใช้เส้น moving average ในแต่ล่ะแบบ expo, simple, weight
4. การใช้ค่าเฉลี่ยเบงเบนให้เป็นประโยชน์จากการใช้ Moving average 
5. Idea การตี trend line ร่วมกับการใช้ bar chart ในการตัดสินใจ
6. การใช้ ADX กับ STO เพื่อหาตำแหน่งการรีบาวน์
7. การใช้ MACD ร่วมกับ ADX เพื่อหากำลัง
8. Idea การเทรดระยะสั้น เพื่อเฉลี่ยต้นทุนให้ดีขึ้น
9. การ Let profit run ใน TF ใหญ่ และการใช้ TF เล็กๆ ในการตัดสินใจเข้ามาช่วย ในวันที่ตลาดแกว่งมากๆ สำหรับเวลาโดน Stoploss

ครั้งที่ 6 
Money management
1. การ MM ให้ได้กำไรสูงสุดในการเล่น Future
2. การกำหนดจุด STOPLOSS ใน TF ใหญ่ และเล็ก
3. การคำนวณ RISK/REWARD
4. การใช้ตาราง MM ในการควบคุมความเครียดในการเล่น Future
5. การเล่นสั้นโดยไล่ Candlestick ใน SET50 Future
6. การ LET PROFIT RUN โดยใช้ CANDLESTICK ในหุ้น
7. การเล่นสั้นโดยใช้ TF หลาย TF ในการตัดสินใจ โดยใช้ Moving ร่วมกับ Candlestick 


ครั้งที่7  ทบทวน
1. จะสอนวิธีใช้ระบบ การ Run Trend เขียวแดง (1 ปีจะใช้ประมาณ 2-3 ครั้งในการ Run trend) เมื่อมีสัญญาณ SETUP BUY จาก Commercial
2. สอนวิธีการใช้ระบบ ใน TF สั้น เพื่อเล่น Swing Trade เพราะ 1 ปีเรามีโอกาสอยู่ในช่วง Sideway 7-8 เดือน
3. การเล่นทองแท่ง โดยใช้ RSI ช่วยรับในจุดที่ ความเสี่ยงต่ำ และการออกแบบ Model การเล่นทองแท่งให้ปลอดภัย แต่ไม่ high profit นะครับ เน้นปลอดภัย และใช้ออกแบบการเล่น Sideway ด้วยด้วยเช่นกัน
4. การ Run trend โดยใช้ Moving average ในการวางแผน
5. Williams pattern entry
5.1 OOPS! BUY, Sell
5.2 Fake out Buy, Sell
5.3 Naked close buy, naked close sell
5.4 Smash day buy, sell
5.5 Specialist Trap buy, sell

วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

trader magazine aug 2012 p.68


trader magazine aug 2012 p.68

มาเรียนรู้ประสบการณ์
1. เขาอยู่ในตลาด dot com bubble
2. ตั้งแต่ตอนนั้นเขาเรียนรู้ที่จะเป็น trader แบบ cerservative trader และจะไม่มีทางสูญเสียเงินก้อนใหญ่อีกครั้ง
3. ตลาดหมีใหญ่สอนให้เขา จำอย่างแรกคือห้ามเสียเงิน ห้ามเสียเงิน
4. ความผิดพลาดเขาคือ เขาคิดที่จะไม่มี stoploss เมื่อมีการย่อเล็กๆ มักจะทำ high ต่อ แต่ครั้งสุดท้าย มันลงแรงมาก และเขาก็เปลี่ยนความคิด ด้วยการ Hope หรือ หวังว่ามันจะกลับขึ้นไป แต่มันกลับสูญเสียมหาศาล
5. ห้ามคิดว่าตลาดจะไม่มีทางลงต่ำไปกว่าไม่ได้ เพราะเหตุผลว่าลงมามากแล้ว
6. สิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมคือ สิ่งไม่คาดหวัง ทุกครั้งต้องมีจุดขายขาดทุน ปกป้องเงินทุนเราจาก ตลาดที่วันนึงอาจ surprise เราอย่างไม่ทันตั้งตัวก็ได้

Boyles แปล

วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

MONEY MANAGEMENT, THE KEY TO THE KINGDOM

MONEY MANAGEMENT, THE KEY TO THE KINGDOM

YOU'LL NEVER LEARN TO FLY UNTIL YOU LEARN TO FALL

ALL THE HOT SYSTEMS AND WINNING TRADES IN THE WORLD WILL NOT CREATE MASSIVE WEALTH ON THEIR OWN. IT IS THE ABILITY TO PAYLAY WINNINGS THAT CREATES FORTUNES.

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

A Day in the Life of a Trader...

ว่างๆ จะมาแปลอีกที

A Day in the Life of a Trader...

At times it seems like more people want to know my schedule and how I go about trading than how I actually trade.



I think what's happening is people are looking for structure, some way of adapting their life to this crazy business of speculating. Here's how I go about it.

Most of my work is done after the markets close... I actually don't do much in the way of trading while the market is open. In other words, once the markets close, I go through my charts, my strategies and techniques to find what I should be doing tomorrow.

Then I wait for the markets to re-open and place my orders for that trading session.

One thing I have learned is that looking at the markets during the day, hoping they will go in my direction, is meaningless. It is wasted energy.

While the markets are trading I do my writing and research. It is also when I reply to e-mails and questions from students. I will occasionally look to see what is taking place in the market. When in a trade I will look for one or two specific patterns, such as the formation of outside bars as I discuss in my courses. Other than that, once the dice are in the air and the market is trading, I have found it best not to interject myself into the ideas I arrived at from intense study.

That means of course that I force myself to work diligently prior to the markets opening, to come up with what my strategy should be for that day. Once I have that strategy, I do not want to switch horses in midstream while the market is trading to some other new idea. That leads to losses, that is the strategy of someone that does not trust his strategy or has an ineffective approach.

I have tried a variety of lifestyles to improve my trading. You name it, and I probably tried it. From meditation to mantras, psychological processes and stress reduction techniques. I have dabbled in just about everything to make me a better person and trader.

What have I learned from all this?

I have learned that when you are correct in the market you are not under much stress. In other words, while all of the above can be beneficial, nothing is more important to your sanity and well-being than being right in the market. That brings a tranquility that literally nothing else can achieve.

Since we are often wrong in the marketplace we need to learn to deal with stress and the pressures of being wrong, as well as losing money. 

I do believe my lifelong dedication to exercise and a healthy lifestyle has been extremely beneficial to me as a trader. I think my lifestyle has been responsible for helping me to be able to stay alive in this game for half a century.

If there was any one thing from my lifestyle that I would suggest you do, if you're not doing it already, is exercise.

So what form of exercise? That probably depends on your age. When I was younger I ran marathons, 69 of them, and lots of road races. I like the competitive part. It's just like trading, and the fact that hopefully my mind and body work better.

You may have heard of the loneliness of the long-distance runner... I never saw it as lonely but something where I could think about what I wanted to do. It's kind of like fishing; it is such a relaxing passion, enabling you to get your mind away from the day-to-day hassles. That creates the space and opportunity for deeper introspection or understanding of yourself and the markets. Anything that gets you away from the humdrum business of day-to-day thinking is bound to help.

Clearly everything you learned about eating in life is correct. Don't overeat, stay away from junk food and greasy foods. All those things matter and the longer you live, the more they matter. Thus, a healthy lifestyle includes not only exercise but correct eating. In my case I have taken a large dose of vitamins and minerals almost every day of my life since I turned 30, and I think that has also made a great difference.

I have also come to believe that everyone's body is different. Maybe being a vegetarian works for you. I tried it for about 13 years and ultimately it didn't work for me. But it may work for you. You have to find what works for you, what type of exercise, and what type of lifestyle.

As I see it, the foundation for success comes from a healthy mind and body. On top of that we then need good strategies in structure or format to follow to implement our speculative activities.

My structure is each day I study the markets after they close. That is when I prepare my strategy for the next session. Once the markets open I then implement the strategy. After the close then the process starts all over again.

Day after day, this is the process I use to approach to my trading.

I hope you have enjoyed these lessons...

Live well and you will trade well.

Larry Williams