ผมข้อ quote ข้อความมาเลยนะครับ
"random outcome mindset คือการที่เราเชื่อ จนถึงในส่วนลึกของจิตใจของเรา ว่าผลของการซื้อ-ขายในตลาดหุ้น นั้นเเหมือนการโยนเหรียญ ไม่มีครั้งใหนที่สามารถการันตีได้ Technical analysis ถูกออกแบบมาให้หาความน่าจะเป็น หรือค่า Expectancy ภายใต้การเทรดหลายๆครั้ง ผลความน่าจะเป็นของมัน คือผลทางสถิติในหลายๆครั้ง และเราไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่นอนว่า Sequence หรือลำดับการเกิดกำไร หรือขาดทุน ในแต่ละครั้งจะเป็นอย่างไร แต่เราพอคา่ดเดาได้ว่าเมื่อถึงจำนวน หรือ Series หนึ่งแล้ว เราจะมี% ถูก-ผิด อยู่เท่านี้ๆ
หรือแม้กระทั่งกฏที่บอกว่ากราฟทางเทคนิคได้สรุปทุกอย่างไว้แล้ว อาจทำให้คนฟังเข้าใจผิดได้ว่ามันคือการสรุปให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นไว้แล้ว เพราะ จริงๆลองคิดดีๆแล้ว เราจะเห็นว่ากราฟ คือข้อมูลที่ถูก Distort ออกไป เราตัดเอาข้อมูลที่มีค่าหลายๆอย่างออกไปมากมาย อย่าลืมว่า เราเหลืออยู่แค่ OHLC กับ Volume นะครับ
หรือแม้กระทั่งกฏที่บอกว่ากราฟทางเทคนิคได้สรุปทุกอย่างไว้แล้ว อาจทำให้คนฟังเข้าใจผิดได้ว่ามันคือการสรุปให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นไว้แล้ว เพราะ จริงๆลองคิดดีๆแล้ว เราจะเห็นว่ากราฟ คือข้อมูลที่ถูก Distort ออกไป เราตัดเอาข้อมูลที่มีค่าหลายๆอย่างออกไปมากมาย อย่าลืมว่า เราเหลืออยู่แค่ OHLC กับ Volume นะครับ
อย่าลืมว่าอินดิเคเตอร์ทั้งหลายก็คือการ Distort ข้อมูลต่างๆอีกรอบ การที่เราพยายาม optimize มัน จึงยิ่งทำให้มันใช้ได้จริงยากกว่าเดิม แต่คนเราเชื่อว่ามันคือสิ่งที่จะบอกให้รุ้ล่วงหน้าได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น
ซึ่งไอ้ความที่ว่าคนเราชื่อว่านี่แหละ จริงๆแล้วเราแต่ละคนจึงไม่ได้เล่นตามกราฟ ตลาดมันก็วิ่งของมันไปอยู่อย่างนั้น -แต่เราเล่นจากมุมมองของเราที่เราเชื่อว่าตลาดจะงั้นงี้ๆ- เรากำลังเล่นจากความเชื่อของเรา เขาถึงบอกว่า We trade our believe ซึ่งผลจะออกมาถูกหรือผิด มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คนอื่นๆในตลาดเขาจะเชื่อแบบเดียวกับเราหรือปล่าว ในเวลานั้น ถ้าใช่สัญญาณมันก็เป็นจริงออกมา ผลของมันจึงได้เป็น random outcome ครับ
และโดยการยอมรับว่าผลการเทรดของเรามัน “random outcome” นี่แหละจึงจะทำให้เราสามารถเล่นหุ้นได้โดยไม่มีความลังเล หรือเอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องได้ เพราะทุกเทรดจะเหมือนกับการโยนเหรียญ เราไม่มีความคาดหวังอะไรกับมันมากมาย ผิดก็ผิด เพราะมันไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่ตลาด และคนอื่นๆในตลาดด้วย เมื่อไม่มี Ego ของเรามาเกี่ยว ทำอะไรก็ง่ายขึ้นครับ
ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า ถ้าต้องหยอดตู้ม้า แล้วโดนกินตัง เราจะโทษตัวเองว่าวิเคราะห์ผิดใหม? แล้วเอาความรู้สึกนั้นมาเล่นหุ้น เรื่อง Cut loss นี่จะสบายๆขึ้นเยอะ ลงเมื่อไหร่ก็ออกเมื่อนั้น กลายเป็นจ้องจะทิ้งไปเลยครับ"
ลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า ถ้าต้องหยอดตู้ม้า แล้วโดนกินตัง เราจะโทษตัวเองว่าวิเคราะห์ผิดใหม? แล้วเอาความรู้สึกนั้นมาเล่นหุ้น เรื่อง Cut loss นี่จะสบายๆขึ้นเยอะ ลงเมื่อไหร่ก็ออกเมื่อนั้น กลายเป็นจ้องจะทิ้งไปเลยครับ"
อ่านไปอ่านมา เพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันเหมือนเล่นพนันเลย แต่การที่เราเอาเทคนิคมาใช้เพราะประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอย ดังนั้นเราจึงศึกษาเทคนิคเพื่อเพิ่ม % ความน่าจะเป็นของการทำกำไรให้มากกว่าขาดทุน แต่ความน่าจะเป็นไม่ใช่ว่ามันต้องเกิด ดังนั้นแนวคิดเรื่อง random outcome จึงบอกว่าเราก็ไม่ควรมั่นใจเกินไป มันจึงทำให้เรา Trade ตามระบบได้ดีขึ้น และเป็นแบบแผนมากขึ้น
ก็ขอขอบคุณคุณ mod ที่ให้ความกระจ่างเรื่องนี้ครับ ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์กะเพื่อนๆทุกคนนะครับ
boyles
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น