พอดีไปอ่านเจอบทความเกี่ยวกับวิกฤตดูไบ อ่านเข้าใจง่ายดี เลยเอามาให้อ่านกัน
และผมได้ไปเยือนเกาะปาล์มเพียงแห่งเดียวคือ
ปาล์ม จูไมร่า และถือเป็นปาล์มต้นเดียวที่เสร็จสมบูรณ์จริงๆ
จะว่าไปผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นัก มีเพียงอ่างเลี้ยงปลาวาฬเท่านั้นที่ทำผมตะลึง
ที่เหลือมันไม่ประทับใจเท่าไหร่เลย จะว่าไปบ้านบนนั้นมันเรียงจนเหมือนบ้านจัดสรรราคาถูกทั้งๆที่เป็นร้อยล้าน ดูสิครับ
ในขณะที่ปาล์มต้นที่ 2 เจเบอาลี
เคยเห็นแต่ไม่เคยเข้าไปเพราะยังไม่สมบูรณืครับ และปาล์มต้นนี้คือ
จุดเริ่มความพินาศ
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม เกาะแห่งนี้คือจุดเริ่มของความพินาศ ต้องย้อนกลับไปต้นแรกก่อนครับ ปาล์ม จูไมร่า นั้นขายหมดในเวลาไม่นานนัก หากจำไม่ผิดจะขายหมดใน 1หรือ 2 วันนี้แหละครับ ทำให้เจ้าผู้ครองนครดูไบตัดสินใจสร้างปาล์มต้นที่ 2 คือเจเบลอาลีแห่งนี้
แต่........เจเบลอาลีเป็นเกาะที่ต่างจาก จูไมร่า เกาะแรกอย่างสิ้นเชิง
จูไมร่า นั้นตั้งบนหาดทรายสีขาว จูไมร่าบีซที่มีซื่อไปทั่วโลก น้ำทะเลที่ใสราวกระจกเพราะเป็นเขตที่มีหอยมุก(อันดามันเราก็มีหอยมุกและน้้ำใส) นอกจากนี้บริเวญโดยรอบ ยังเป็นที่พักอาศัยและสำนักงานชั้นดี เมืองมหาวิทยาลัย หากจำไม่ผิด เอมิเรต ฮิล ที่ตั้งบ้านทักษิณก็อยู่ใกล้ๆเกาะนี้
แต่
เจเบลอาลีไม่
ความหยิ่งผยองในโครงการแรกทำให้ เจเบลอาลีใหญ่กว่าเกาะแรก ทำให้หรูกว่า แพงกว่า
แต่
ที่ตั้งงี้เง่าที่สุดเท่าที่จะนึกถึง
เจเบลอาลีอยู่ในเขตอุตสาหกรรมและท่าเรือ มีทั้งไอพิษ น้ำเน่าปนเปื้อนเคมี คราบน้ำมันและอิ่นๆ
โครงการนี้จึงล้มไม่เป็นท่า
แต่
แทนที่เชคแกจะยอมรับ แกมองไปว่าต้องสร้างความน่าดึงดูดใจกว่านี้คนถึงเข้ามา
แกจึงสร้างเกาะรุปเสี้ยวจันทร์ล้มไปให้ใหญ่ขึ้น
เห็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เป็นรูปตัว U ตรงทางขวามือไหมครับ นั้นแหละนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือ คิดเองใกล้ไหม?แล้วใครอยากอยู่ใกล้ที่แบบนั้น
และอย่างที่รู้ เกาะหลักขายไม่ได้ เกาะที่สร้างใหม่ก็..................เหลวครับ แกเลยขุดคลองเชื่มเข้าแผ่นดินไปยังเกาะปาล์มตัวแรกอีก.....
และหลังประกาศสร้างเกาะปาล์มแห่งนี้ไม่นาน ก็มีการประกาศสร้างเกาะที่ 3 คือ ปาล์ม เดียร์ร่า
สร้างขึ้นในเขตชายหาดของเมืองเก่า
โดยเกาะนี้จะเป็นเขตที่พักอาศัยและศูนย์ราชการของเมือง และอย่างที่รู้เกาะ 2 ยังแทบไม่รอด เกาะนี้ซึ่งใหญ่กว่าทั้ง 2 เกาะก็.......
แต่นั้นแหละครับ แทนที่แกจะคิดว่าโครงการใหญ่ๆนั้น สร้างปัญหา
เชคดูไบกลับเชื่อว่าคนเบื่อปาล์มแล้ว จึงสร้าง เดอะเวริด์
เอาละสิ หนนี้เหมือนดีครับ คนสนใจเยอะมาก
เชคแกก็เลยสั่งให้ทำแผ่นที่ให้คนทั้งหลายเห็นว่าดูไบในอีก 20 ปีจะหน้าตาอย่างไรออกมา
แต่นะครับ โครงการมันใหญ่และแพงมากคนจึงซื้อไม่มากอย่างที่คาด
และหนี้ที่กู้มาก็เริ่มพอกขึ้นเรื่อยๆๆ
เขคแกมีความเชื่อว่า ต้องน่าสนใจกว่านี้คนถึงจะเข้ามา
หากเดอะ เวริด์ โกลมันไม่น่าสน
บางที
เราควรเสนอทั้งจักรวาล
คือที่มาของ The Univer
จากรูปท่านจะได้เห็น พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาวเคราะห์ต่างๆ เห็นดาวเสาร์ที่มีวงแหวนไหม?
เส้นลากรูปตัว s แทนทางช้างเผืกครับ ส่วนที่เป็นวงๆแทน อันโดรเมด้า.........................
แล้ว.......................
ท่านรู้หรือยังว่า เขาลงทุนเกินตัวแค่ไหน
และใช่เงินมากแค่ไหนกับเรื่องเหลวไหลนี้จนล้มละลาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น