เรามาเข้าเรื่องกันต่อ นักวิเคราะห์คนนี้ก็เป็นหนึ่งในคนที่มองตลาด Bearish ครับ สวนทางกับหลายๆที่ ที่มองตลาด Bullish ครับ
มาดูที่คำที่เขา quote ไว้นะครับ เขากล่าวไว้ว่าอย่างไรบ้างกับทฤษฏีใหม่ของโลก
"Eight vultures : อีแร้ง 8 ตัว
ก่อนหน้าเป็นแนวโน้มขึ้นวันแรกเปิดต่ำปิดสูง วัน ที่2 เปิดสูงปิดต่ำ และต่อเนื่องเป็นเวลา 8วัน จน ชาวญี่ปุ่นผู้เขียนทฤษฎีแท่งเทียนที่ใช้เป็นรูปแบบการกลับตัวต้องกลับไปเขียนตำราใหม่โดยตั้งชื่อตามสภาพตลาดว่า “อีแร้งแปดตัว” โดยหุ้นที่ขึ้นแรงทุกวันเป็นหุ้นที่อีแร้งชอบกินสลับสับเปลี่ยน เช่นแบงค์ทหารลาวสามบาทขาดตัวไก่สวรรค์ วีซุปเปอร์เพชร รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ยางนรกสิบหกปีเท่าทุน เคเบิลนรก 13ปี 350 เหลือต่ำบาท คิดติเน่า และอื่นอีกมากมายเข้าแถวลิ่งมีการให้เป้าราคาผ่านสื่อทุกวันกรรมการเป็นใบ้ เพราะกลัวอีแร้ง 8 ตัว สุดท้ายลงแรงนักลงทุนถูกอีแร้งกิน หากสัปดาห์หน้าหุ้นกลับตัวลงจะได้รับการยอมรับเป็นทฤษฏีใหม่ของโลกจบขำ ๆ"
คำพูดที่เหน็บแหนบมันอาจจะจริงบ้าง ถูกใจใคร หรือไม่ถูกใจใครบ้าง แต่ก็บ่งบอกถึงความหวังดี ที่ให้ระวังการเล่นหุ้นในกลุ่มพวกนี้ด้วยนะครับ ดูไปก็น่าคิดนะครับ + ขำๆ ยังไงใครเล่นหุ้นพวกนี้อยู่ถ้ามีสัญญาณขายก็อย่าลืมออกมานะครับ แล้วก็ที่ตลกนั้นคือ ทฤษฎีใหม่ที่พยายามฝืนตลาดอยู่ เลยโดนตั้งเป็นอีแร้งแปดตัวสะเลย วันนี้ก็เข้าสู่อีแร้งตัวที่ 7 แล้วนะครับ อย่าดูถูกไป อาจจะเป็นจริงก็ได้ :)
ส่วนทฤษฎีนี้ ไม่ต้องไปหานะครับ ผมหาแล้วครับ ไม่มีครับ ไม่ต้องเสียเวลาหา ไม่เจอแน่นอนครับ ดูกันขำๆพอครับ สำหรับผม เรื่องข่าวกับหุ้น อ่านไปก็ปวดหัวครับ จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ปกติผมอ่านข่าวรวมๆมากกว่า ไม่ค่อยเน้น อ่านข่าวแล้วเทรดหุ้นครับ เพราะกราฟบอกทุกอย่างอยู่แล้ว อย่างเรื่องของ THCOM ผมว่าเป็นการปั้นที่น่าเกลียดแห่งปีเลยครับ แล้วก็ loxley อีกข้ามไปดีกว่า เรื่องพวกนี้
อีกเรื่องครับ จากรูปก็น่าสนใจดีเรื่องของ cycle 34 วันที่เขายกมา ผมไม่คิดว่านี้จะเป็นหลักการที่เอาไปใช้จริงได้ แต่ให้เป็นสำหรับการสังเกตดีกว่าครับ เพราะว่าช่วง 34 วันในเดือนธันวาที่เขายกตัวอย่างมา คือช่วงที่กองทุนซื้อหุ้นตลอดทั้งเดือน ตลาดต่างประเทศลงยังไง ไทยก็ขึ้นครับ ช่วงนั้น fundflow จากต่างชาติก็ไม่มีเหมือนกัน เหมือนกับช่วงนี้ที่กองทุนซื้ออัดเข้ามาจะ 34 วันแล้ว โดยต่างชาติก็ไม่ได้เข้าเหมือนกัน ดังนั้นก็อาจจะโอกาสเป็นเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้ครับ ยังไงเรายึดระบบของเราเป็นหลักดีกว่า ถ้ามีสัญญาณขายก็ขายดีกว่า แต่ถ้าสัปดาห์หน้าลงก็น่าคิดนะครับ ลองมาดูเฉลยในสัปดาห์หน้ากันดีกว่า
ส่วนเรื่องของ fundflow ผมยังไม่คิดว่า จะมี fundflow จากต่างชาติเข้ามาในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะผมมองว่าจากการที่หุ้นจีนลงมาเยอะในช่วงหลังทำให้เงินน่าจะ flow ไปทางจีนมากกว่า อีกทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองเราอีก และยังมีอัตราดอกเบี้ยในบ้านเรา เมื่อเทียบกับหุ้นปันผลในหลายๆตัวยังถือว่าถูก ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเงินที่สภาพคล่องในตลาดยังมากอยู่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกิด panic หนักๆ ถูกยังไงคนก็กลัวครับ ดังนั้นกำหนัดกลยุทธ์ดีๆนะครับ จุด stop ให้ดีๆ ส่วนตัวผมก็วิเคราะห์เรื่อยๆ ครับถูกๆ ผิดๆ คละเคล้ากันไปที่ http://set-financial-analysis.blogspot.com/ แต่ถ้ามีสัญญาณไม่ดีจะไม่รีรอที่จะรีบเตือนทุกคนครับ
ก็หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ แล้วก็ตลกๆกันไป(รึเปล่า)
boyles
คำพูดที่เหน็บแหนบมันอาจจะจริงบ้าง ถูกใจใคร หรือไม่ถูกใจใครบ้าง แต่ก็บ่งบอกถึงความหวังดี ที่ให้ระวังการเล่นหุ้นในกลุ่มพวกนี้ด้วยนะครับ ดูไปก็น่าคิดนะครับ + ขำๆ ยังไงใครเล่นหุ้นพวกนี้อยู่ถ้ามีสัญญาณขายก็อย่าลืมออกมานะครับ แล้วก็ที่ตลกนั้นคือ ทฤษฎีใหม่ที่พยายามฝืนตลาดอยู่ เลยโดนตั้งเป็นอีแร้งแปดตัวสะเลย วันนี้ก็เข้าสู่อีแร้งตัวที่ 7 แล้วนะครับ อย่าดูถูกไป อาจจะเป็นจริงก็ได้ :)
ส่วนทฤษฎีนี้ ไม่ต้องไปหานะครับ ผมหาแล้วครับ ไม่มีครับ ไม่ต้องเสียเวลาหา ไม่เจอแน่นอนครับ ดูกันขำๆพอครับ สำหรับผม เรื่องข่าวกับหุ้น อ่านไปก็ปวดหัวครับ จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ปกติผมอ่านข่าวรวมๆมากกว่า ไม่ค่อยเน้น อ่านข่าวแล้วเทรดหุ้นครับ เพราะกราฟบอกทุกอย่างอยู่แล้ว อย่างเรื่องของ THCOM ผมว่าเป็นการปั้นที่น่าเกลียดแห่งปีเลยครับ แล้วก็ loxley อีกข้ามไปดีกว่า เรื่องพวกนี้
อีกเรื่องครับ จากรูปก็น่าสนใจดีเรื่องของ cycle 34 วันที่เขายกมา ผมไม่คิดว่านี้จะเป็นหลักการที่เอาไปใช้จริงได้ แต่ให้เป็นสำหรับการสังเกตดีกว่าครับ เพราะว่าช่วง 34 วันในเดือนธันวาที่เขายกตัวอย่างมา คือช่วงที่กองทุนซื้อหุ้นตลอดทั้งเดือน ตลาดต่างประเทศลงยังไง ไทยก็ขึ้นครับ ช่วงนั้น fundflow จากต่างชาติก็ไม่มีเหมือนกัน เหมือนกับช่วงนี้ที่กองทุนซื้ออัดเข้ามาจะ 34 วันแล้ว โดยต่างชาติก็ไม่ได้เข้าเหมือนกัน ดังนั้นก็อาจจะโอกาสเป็นเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ก็ได้ครับ ยังไงเรายึดระบบของเราเป็นหลักดีกว่า ถ้ามีสัญญาณขายก็ขายดีกว่า แต่ถ้าสัปดาห์หน้าลงก็น่าคิดนะครับ ลองมาดูเฉลยในสัปดาห์หน้ากันดีกว่า
ส่วนเรื่องของ fundflow ผมยังไม่คิดว่า จะมี fundflow จากต่างชาติเข้ามาในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพราะผมมองว่าจากการที่หุ้นจีนลงมาเยอะในช่วงหลังทำให้เงินน่าจะ flow ไปทางจีนมากกว่า อีกทั้งเหตุการณ์บ้านเมืองเราอีก และยังมีอัตราดอกเบี้ยในบ้านเรา เมื่อเทียบกับหุ้นปันผลในหลายๆตัวยังถือว่าถูก ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเงินที่สภาพคล่องในตลาดยังมากอยู่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกิด panic หนักๆ ถูกยังไงคนก็กลัวครับ ดังนั้นกำหนัดกลยุทธ์ดีๆนะครับ จุด stop ให้ดีๆ ส่วนตัวผมก็วิเคราะห์เรื่อยๆ ครับถูกๆ ผิดๆ คละเคล้ากันไปที่ http://set-financial-analysis.blogspot.com/ แต่ถ้ามีสัญญาณไม่ดีจะไม่รีรอที่จะรีบเตือนทุกคนครับ
ก็หวังว่าคงมีประโยชน์นะครับ แล้วก็ตลกๆกันไป(รึเปล่า)
boyles
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น